แค่เรื่องหมาหมา แต่มันเลี้ยวมาลงแบบนี้ได้อย่างไร ?





เครดิต: Nation TV


  หมากัดคน เป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ถามว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามั้ย คิดว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา มันก็คงเกิด และเกิดมาตลอด เท่าที่หมากับคนอยู่ร่วมกันมา ?

  แล้วทำไมข่าวทุกวันนี้ มันมีมากซะเหลือเกิน อันนี้ต้องไปถามพวกสื่อ เพราะทุกวันนี้ สื่อเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด หลังจากมีทีวีดาวเทียม ช่องต่างๆมีมากมาย แต่ข่าวที่ทำได้ง่ายที่สุด คือข่าวชาวบ้าน ?

  ข่าวชาวบ้าน คือข่าวอะไร ?

ข่าวชาวบ้าน ก็ประเภท นี่แหละ หมากัดกัน ตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ข่าวข่มขืน ข่าวตีกัน นักเลงอันธพาลตีหัวกัน ฉกชิงวิ่งราว ขโมยกางเกงใน ข่มขืนแม่เฒ่า ทะเลาะกันบนท้องถนน รถชนกัน และจับยาเสพติด !

แล้วมันต่าง?

มันต่างกันตรงไหนเหรอ กับข่าว แบบสร้างสรรค์ ที่จริงเรื่องข่าว นี่มันมีมากมายบนโลกใบนี้ ข่าวดี ข่าวร้าย ไม่ใช่คำว่าข่าว จะต้องร้ายเสมอไป ข่าวดีดี คนดีดี มีมากมาย ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แต่ สื่อไม่นำเสนอ เพียงเพราะว่า เรทติ้งมันอาจจะไม่ดี หรือกลัวว่าคนจะไม่สนใจ เพราะมันต้องแข่งกัน นำเสนอข่าว เพราะช่องข่าวมันเกิดขึ้นมาเยอะ เมื่อเยอะก็ต้องแข่งขันกัน แย่งชิงลูกค้ากัน และเรื่องดีดี ส่วนมากชาวบ้านอาจจะไม่สนใจ นั่นคือความคิดของสื่อ ?

เมื่อสังคมอยู่รวมกันเป็นหมู่มาก แน่นอนว่า มันก็ต้องมีเรื่อง กระทบกระทั่งกัน ยิ่งแออัดยิ่งมีปัญหา ยิ่งหละหลวม ยิ่งง่ายต่อการเกิดการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น ลักเล็กขโมยน้อย แอบย่องขโมยกางเกงใน หรือล่วงละเมิดทางเพศ เราปฎิเสธ ปัญหาของสังคมพวกนี้ไม่ได้ นอกจากจะมีผู้บริหารบ้านเมืองที่มีสติปัญญาเข้ามาแก้ไข ทำให้ความเป็นอยู่ ความรู้ ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ที่อยู่อาศัย ไม่เอื้อต่อการก่ออาชญากรรม!

ไม่ต้องให้ใครไปทำวิจัย ที่ไหน ใช้สติปัญญาคิดง่ายๆ อย่างที่เห็น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดมาตามข่าว เกิดจากความแออัด ของประชากร ความแออัด ความบีบคั้นความยากจน คืออย่างนี้ เอาง่ายๆก่อนเลย อย่างที่อยู่อาศัย ถ้าแออัด อยู่กันอย่างสลัม บ้านยังต้องใช้ป้ายโฆษณา มาทำข้างฝา ถามว่า คนจำนวนพันจำนวนหมื่นมาอยู่รวมกัน ง่ายต่อการมีปัญหามั้ย ?

 ทุกวันนี้ ความแออัดแม้แต่บนท้องถนน การแย่งชิงพื้นที่ เบียดเสียด ยัดเยียด ทำให้เกิดปัญหาทั้งนั้น การเอาเปรียบกัน การทะเลาะเบาะแว้งกัน ย่อมเกิดขึ้นได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้น ถ้าใครคิดแก้ต้องแก้ที่ประเด็นนี้ ความยากจน การศึกษา ทุกอย่างจะมารวมกัน และก่อให้เกิดปัญหาอย่างที่กล่าวมา ?

คนจน คนไร้การศึกษา ไม่มีบ้านหรูหราแบบคนรวย  คือสภาพแวดล้อม มันแย่ซะแล้ว ทุกอย่างมันดูแล้วเครียดไปหมด ปัญหาสังคมไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราเข้าใจความจริง และยอมรับมัน ?

ถ้าคนบริหารบ้านเมือง รู้ถึงปัญหา หาที่อยู่ที่กิน หาทางระบายคนออกไปสู่ชนบท สร้างบ้านพัก คอนโดหรือจะหาที่หาทาง ให้ที่ดินทำกิน เอาคนออกจากสังคมที่แออัด ความเละเทะจะหมดไป ?

ความแออัดมีอยู่ทั่วโลก มันเหมือนรังแมลงสาป ความยากจน ยาเสพติด สุขภาพจิตที่แย่ เพราะต้องหวาดระแวง เด็กที่เกิดมา ในสภาพเช่นนั้น ยากที่จะรอดหรือดีได้ บางคนอาจจะแย้งว่า ดีดีก็มี ใช่ แต่น้อยมาก น้อยจนนับไม่ได้  อย่าเอามาคิดเลย ?

สิ่งที่อยากจะบอกว่า ปัญหามันต้องแก้กันที่ต้นเหตุ ไม่ใช่มาตามไล่ล่ากันที่ปลายเหตุ เหมือนยาเสพติด ไม่ได้แก้กันที่ต้นเหตุ แต่ไปไล่ล่า ตามล่อตามจับกันที่ปลายเหตุ ถามว่า แล้วมันจบมั้ย อีกร้อยปี ก็ยังล่อซื้อ ตามไล่จับกัน แบบปัญญอ่อนอย่างนี้ต่อไป  ไช้แต่กำลัง ไม่ใช้สมอง ?

ถามว่า แล้วทำไมมันเสพ รู้มั้ย ? รู้ซิ ?

ก็บอกแล้ว ปัญหาสังคมมันพันกัน ต้นเหตุมากจากสถานที่อยู่ ที่กิน ที่นอน ที่เติบโต สภาพแวดล้อม การศึกษา ไม่มีใครเกิดมาอยากเป็นคนจน ไม่มีใครกิดมาอยากเป็นคนเลว แต่มันเกิดมันโต มันอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนั้น มันถูกหล่อหลอมให้คลุกเคล้า ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ?

การทำงานของรัฐ ทุกวันนี้ แก้ปัญหาด้วยการไล่จับ คือปลายเหตุ เหมือนจับแม่ค้าแผงลอย คือไม่รู้ล่ะฉันไม่ให้ขาย สกปรกไม่มีระเบียบ การตามจับล่อซื้อยาเสพติด คือการแก้ที่ปลายเหตุ ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลยว่า คนเหล่านั้น คือคนที่น่าสงสาร ทำไมเขาเสพ ทำไมเขาขาย คิดไม่เป็น คิดแต่ว่า เฮ้ยผลงาน จับเยอะๆ จะมีผลงาน มีส่วนแบ่งหรือเลื่อนขั้น บ้าบออะไรของมัน มันคิดเป็นมั้ยว่า นี่คือปัญหาของสังคม มันคิดเป็นมั้ยว่า ยิ่งจับจะทำให้มันยิ่งแพง และยิ่งแพง ก็จะมีคนยิ่งอยากจะทำ เพราะมีราคาดี และมีกำไรมาก รวยเร็ว ?  ลองมันเลิกจับ สักแค่ปีสองปี คุณว่าจะเกิดอะไรขึ้น ?

ถ้าไม่จับ สักปีสองปี ขี้ยามันไม่เต็มบ้านเต็มเมืองเหรอ ก็ลองดูซิ แล้วทุกวันนี้ มันจับกันไม่เว้นแต่ละวัน มันหมดมั้ย ?

มันมีอะไร จะเสียอีกมั้ย ?  คนเสพมันก็คนเดิมนั่นแหละ กลุ่มเดิมๆ ถ้ามันวางขายกันข้างถนน กลาดเกลื่อน แบบถั่วต้ม มันจะทำให้ นักศึกษา จุฬา ธรรมศาสตร์ ซื้อมาเสพอย่างนั้น หรือ ?

เชื่อมั้ยว่า ? เมื่อเป็นเช่นนั้น ราคาจะตกลงมาเหลือแค่เม็ดละ ห้าบาท สิบบาท แล้วใครอยากทำ ใครจะอยากขาย เพราะราคามันตก มันมีมากล้นตลาด มันก็เลิกกันไปเอง ?

นี่คือตัวอย่างต้นๆ ง่ายๆ ที่ประเทศแบบนี้ รอคนที่มีสติปัญญามาแก้ไข ปัญหาความยากจน ปัญหาปากท้อง ปัญหาสังคม ปัญหาขี้หมาแค่นี้ มันง่ายแบบเบสิคมากมาก ประเทศที่ไร้ศักยภาพของคนชั้นนำ ชั้นบริหาร ที่มันไม่มีกึ๋นเท่านั้น ที่มันทำไม่ได้ เพราะมันเข้ามาบริหารประเทศ มันไม่เคยยึกหลักที่สำคัญอยู่อย่าง บอกให้ก็ได้ หลักขอนักการเมืองหรือใครก็ได้ ที่จะเข้ามาบริหารบ้านเมือง ให้เจริญ ก้าวหน้า ปัญหาของสังคมหมดไป คือคำว่า " ประชาชน " ?

" ประชาชน ประชาชน ประชาชน "  ????

แล้วไงประชาชน ทุกคนที่เข้ามา ก็เห็นมันบอกว่า มันจะช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ตอนหาเสียง ใช่มันคิดแบบนั้น แหละ !    แล้วมันผิดตรงไหน ?

มันผิดตรงที่ว่า มันไม่ได้จริงใจ มันคิดว่า เวลาขอคะแนนเสียง ก็ไหว้ไปงั้น พอได้รับเลือกตั้งแล้วจบกัน?

ที่จริงมันต้องท่องเอาใว้ให้ขึ้นใจว่า  ประชาชน คือเจ้าของประเทศ ประชาชน คือเจ้าของอำนาจ ประชาชน คือนาย ของมัน เราคือผู้รับใช้เท่านั้น ตาสีตาสา ยายมียายมา บ้านไร่อยู่สวน อยู่สลัม เขาพวกนั้น คือนายเรา นักบริหาร ต้องคิดอย่างนี้ ?

ถ้าคนบริหารประเทศ คิดเช่นนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้น งั้นเหรอ งานทุกอย่างที่จะทำ มันจะถูกคิดด้วยโจทย์ที่ว่า ทำเพื่อใคร เออ ใช่ เราจะทำเพื่อใคร นอกจากประชาชน ทำให้ประชาชน ทำอย่างไร ให้ประชาชนพอใจ ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข ประชาชนอยากได้อะไร ทำให้หมด เพราะพวกเขาคือนาย ?

แต่ทุกวันนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมจะด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ เครื่องแบบ หัวโขนที่มันสวมใส่เข้าไปแล้ว มันทำให้ความคิดมันเปลี่ยนไป มันคิดว่า มันคือนาย ประชาชนคือบ่าว คือไพร่ ใครสร้างปัญหา ต้อง จับมัน เพราะมันคิดแบบนี้ ถ้าวิธีคิดแบบนี้ รัฐกับประชาชน ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างเกลียดกัน !!


แค่นี้ Get มั้ย ?
What the hell !  I did't get  it.

อยากจะอธิบายเพิ่มว่า ไม่ว่าจะทำอะไร แก้ปัญหาเรื่องอะไร เช่น ปัญหาหาบเร่แผงลอย หรือปัญหาชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ปัญหายาเสพติด ปัญหาป่าไม้ สร้างเขื่อน สร้างโรงไฟฟ้า จะถ่านหินหรือนิวเคลียร์ อะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งต้องจำเอาใว้เสมอ คือ ประเทศนี้คือของประชาชน อำนาจเป็นของประชาชน ต้องทำเพื่อพวกเขา ตามใจเขา(เสียงส่วนใหญ่) ไม่ว่าประชาชนต้องการสิ่งใด เรายังต้องทำตามนั้น แม้แต่พวกเขาต้องการเดินแก้ผ้าไปทำงาน ถ้าเสียงส่วนใหญ่เขาต้องการ เราจะทำอย่างไร ในเมื่อเขาคือเจ้าของอำนาจ และต้องการอย่างนั้น คือต้องยึดหลักนี้เอาใว้เตือนใจเสมอ แค่นั้น ?

แต่ถ้าวันใด คนบริหารประเทศ หลุดลืมที่จะคิดว่า ประชาชนเป็นหลัก ประชาชนคือเจ้าของอำนาจ ประชาชนคือเจ้าของประเทศ เขาคือนายเรา แต่ดันไปคิดว่า เราคือนายมัน เรามียศเรามีอำนาจ เห็นมั้ยใครๆก็เกรงกลัวเกรงใจ เราต้องการอย่างไร มันต้องทำตามอย่างนั้น พวกมัน (ประชาชน) โง่ ขี้เกียจ ไร้การศึกษา สร้างแต่ปัญหา ให้ปวดหัว จับมัน ?

เห็นมั้ยว่า มันต่างกันโดยสิ้นเชิง ระหว่างความคิด เพียงแค่นี้ ?

และถ้าความคิดต่างกันออกไป สำหรับผู้บริหาร การทำงานมันก็จะต่างกันออกไปอย่างชนิดว่า หน้ามือกับหลังมือ คือถ้าจะให้ผม ถามคนที่สมัครรับเลือกตั้งเข้ามาเป็นตัวแทนประชาชน มาบริหารประเทศ ผมถามสั้นๆ ง่ายๆว่า  "คุณ คิดว่า เมื่อได้ตำแหน่งแล้ว คุณเป็นนายประชาชน หรือประชาชนเป็นนายคุณ? ถามแค่นี้ แหละ ????



@ ที่จริงตั้งใจเขียนเรื่อง "หมากัดเจ้าของ" แต่ไม่รู้ว่ามันบานปลายมาลงเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ?


NAPOLEON HIN





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กำเนิด SODA

"คนที่ยอมแพ้ไม่เคยชนะ คนชนะไม่เคยยอมแพ้ "

Knight Rider (kitt)