เนติวิทย์ ภาค2

ถ้าเราเปรียบเทียบว่า ในรั้วมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศแห่งนี้ เป็นประเทศเล็กๆประเทศหนึ่ง ประเทศที่ซึ่งสวยงามและถูกเชิดชูเกียรติถูกยกย่องและยอมรับจากใครๆทั่วสารทิศ และโดยไม่มีใครภายนอกรู้ว่า ภายในรั้วนี้ ก็มีปัญหาเล็กๆ ที่ไม่เข้าใจกัน ระหว่างผู้บริหารและคนอยู่ใหม่ ?

 เพียงแค่เรื่องเล็กๆ ว่าจะนั่งหมอบกราบหรือทำความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ทุกคนเคารพนับถืออย่างไรดี ซึ่งก็ปรึกษาหาลือกันด้วยวิธีปกติของปัญญาชนไม่ได้ ถึงขนาดต้องคลุ้มคลั่ง เพราะถูกท้าทาย จากคนใต้ปกครอง ในภาพ เราจะเห็นคนฝ่ายปกครอง มีสภาพจิตที่ผิดปกติไป ทั้งวุ่นวายสับสนและคลุ้มคลั่ง !

การปัดกล้องปิดกล้องห้ามถ่าย เหมือนกับมันเป็นความลับอันยิ่งใหญ่ ที่หลุดลอดออกไปสู่สาธารณชนแล้ว ประเทศนี้จะเสียหายอย่างใหญ่หลวง เรามีความลับอะไรปานนั้น (ไม่ใช่ดินแดนเกาหลีเหนือสักหน่อย) ?

อาจารย์ที่คลุ้มคลั่งด้วยอารมณ์ เหมือนกำลังมีใครมาท้าทายอำนาจ รวมภาพทั้งหมด สรุปคือ มันแสดงให้เห็นว่า คนเหล่านี้ มีสภาพจิตที่วุ่นวายสับสน ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ?

 เกิดจากการหลงอำนาจ หลงในความเชื่อ หลงในความคิดความเชื่อที่ถูกฝังความเชื่อ จนใครมาแตะไม่ได้ ท้าทายไม่ได้ ในขณะที่ฝ่ายใต้ปกครองก็พยายามคิดเรื่องใหม่ๆ มาท้าทายเสมอ ?

มันทำให้สังคมเล็กๆแห่งนี้วุ่นวายและอยู่ด้วยกันอย่างหวาดระแวงไปอีกหลายปี จนกว่าคนท้าทายคนนั้น จะออกไป ขับไล่เนติวิทย์ ออกนอกประเทศ เหมือนใครสักคนนั่นคือวิธีที่หนึ่ง ?

หาวิธีจับผิดเนติวิทย์ และไล่เด็กคนนี้ออกไป(ยังอยู่ในประเทศแต่มีความผิดไม่ต้องยึดทรัพย์) ?

ส่วนทางเลือกที่สามใช้ระบบประชาธิปไตย เมื่อเรามีความคิดต่างเห็นต่าง ใช้เสียงส่วนใหญ่ลงประชามติ มันก็แค่นั้น ?


 เราลองมาดูกันต่อไปว่า ชะตาของเนติวิทย์ จะเป็นอย่างไรต่อไป???? 

แต่ขอทำนายว่า เนติวิทย์ จะอยู่ในสังคมแห่งนี้ไม่ครบสี่ปี ?

หรือถ้าอยู่ได้ครบจนจบรับปริญญาที่นี่ ก็ต้องมีอาจารย์สักคนประสาทเสียจนต้องเข้าโรงพยาบาลหรืออาจคลุ้มคลั่งเสียประสาทวิกลจริตเส้นเลือดสมองแตกอะไรประมาณนั้น !

"จงทำเรื่องใหญ่ ให้เป็นเรื่องเล็ก อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นปัญหา " 


แค่นั้นก็ผ่านมันไปได้ ทำไมไม่ทำกัน ทั้งสองฝ่าย" ปัญญาไง ปัญญา ทำไมไม่ใช้ " 

ก็ไหนว่าเป็นปัญญาชน นี่ไม่ได้แสดงให้เห็นภูมิปัญญาอะไรแม้แต่น้อย ? 

บนโลกใบนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่สังคมเล็กๆ แค่ในรั้วนี้เท่านั้น บนโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลใบนี้ มีเรื่องมากมายให้พวกคุณคิด 

ทำไมต้องวุ่นวายอยู่กับเรื่องพิธีกรรมเพียงแค่จะหมอบกราบหรือจะยืนทำความเคารพ เด็กก็ไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม !

ผู้ใหญ่ก็ยึดติดไม่ตามโลก เพียงเพราะต้องการให้เชื่อและทำตาม ไม่ต้องคิดสิ่งแปลกใหม่  เด็กก็สงสัย ว่าทำไม
ผมว่าผมเชื่ออย่างไม่ผิด ตอบเด็กไม่ได้ ว่าพวกคุณ อาจารย์ทั้งหลาย มาเปลี่ยนแปลงพระประสงค์ ด้วยความคลั่งทำไม ?

ขอแนะนำ ให้หาทุนส่งเนติวิทย์ ไปเรียนต่างประเทศสักทุนเถอะ  ทุกอย่างจะได้จบ ?